

Maleficent (2014) มาเลฟิเซนต์ กำเนิดนางฟ้าปีศาจ
Maleficent (2014) มาเลฟิเซนต์ กำเนิดนางฟ้าปีศาจ หญิงชรานางหนึ่งเล่าความว่า ในเมืองทิพย์ชื่อ เดอะมัวส์ (The Moors) ซึ่งประชิดติดเมืองมนุษย์ เทพธิดาองค์หนึ่งชื่อ มาเลฟิเซนต์ ได้พบและรักมนุษย์หนุ่มชื่อ สเตฟาน ผู้มีใจใคร่จะเป็นราชา แต่ยิ่งนานวัน ทั้งคู่ก็ยิ่งห่างกัน จนวันหนึ่งสเตฟานเลิกมาหานาง ต่อมา พระเจ้าเฮนรี กษัตริย์เมืองมนุษย์ ยกรี้พลมาตีเมืองทิพย์ แต่ทรงแพ้แก่มาเลฟิเซนต์ จึงทรงกริ้วโกรธเป็นกำลัง มีรับสั่งว่า ผู้ใดตามล้างผลาญนางเพื่อแก้แค้นแทนพระองค์ได้ จะให้ผู้นั้นสืบบัลลังก์ สเตฟานสบช่องขึ้นเป็นใหญ่ จึงกลับไปหามาเลฟิเซนต์ในคืนหนึ่ง เขาวางยานาง แต่หักใจปลิดชีวิตนางไม่ลง เขาจึงใช้เหล็กอันเป็นวัตถุมีอำนาจสังหารเทพธิดาตัดปีกนางออก แล้วแสดงปีกนั้นในเมืองมนุษย์เพื่อเป็นเครื่องยืนยันว่า เขาได้ฆ่านางแล้ว มาเลฟิเซนต์หัวใจแหลกลาญ จึงหันไปสร้างดินแดนอนธการอยู่ในเมืองทิพย์นั้น แล้วรับเอานกกาชื่อ ดีอาวัล มาเป็นคนสนิท ให้มีฤทธิ์แปลงกายได้นานัปการ
วันหนึ่ง ดีอาวัลมาแจ้งว่า สเตฟานได้เสวยราชย์ในเมืองมนุษย์แล้ว บัดนี้ กำลังสมโภชพระธิดาที่เพิ่งประสูติมีพระนามว่า ออโรรา เพื่อแก้แค้นสเตฟาน มาเลฟิเซนต์จึงบุกไปงานสมโภชโดยมิได้รับเชิญ แล้วสาปพระกุมารีให้ทรงถูกเข็มปั่นฝ้ายตำพระดัชนีในวันเฉลิมพระชนม์ปีที่สิบหกและบรรทมไปตลอดกาล พระเจ้าสเตฟานทรงขอให้นางปรานี นางจึงทูลว่า คำสาปนี้แก้ได้ด้วยจุมพิตแห่งรักแท้ แล้วก็จากไป พระเจ้าสเตฟานทรงเกรงมาเลฟิเซนต์จะเคียดแค้นพระองค์ยิ่งนัก จึงรับสั่งให้ริบเครื่องปั่นฝ้ายทั้งหมดในแว่นแคว้น แล้วให้นางฟ้าสามองค์นำพระธิดาไปกักเก็บไว้ในป่าจนกว่าจะลุวันเฉลิมพระชนม์ปีที่สิบหก
นางฟ้าสามทั้งสามนั้นสะเพร่า มิได้เอาใจใส่พระธิดาตามสมควร มาเลฟิเซนต์จึงมาปรนนิบัติพัดวีอยู่ไม่ห่าง แม้เดิมจะจงเกลียดจงชังมากก็ตาม ครั้นพระธิดาเจริญพระชันษาที่สิบห้า ก็เสด็จไปพบมาเลฟิเซนต์ ทรงให้รู้สึกเสมือนว่า มาเลฟิเซนต์เฝ้าคุ้มครองป้องกันพระองค์เสมอมา จึงทรงเชื่อว่า มาเลฟิเซนต์เป็น “แม่ทูนหัว” (godmother) ของพระองค์ มาเลฟิเซนต์เองเมื่อให้พระธิดาพำนักอยู่กับตนนานเข้า ก็เริ่มตระหนักว่า ตนรักพระธิดามากเพียงไร นางจึงพยายามเพิกถอนคำสาปให้ แต่ไร้ผล
ภายหลัง ออโรราพบเจ้าชายรูปงามพระนามว่า ฟิลลิป ที่กำลังเสด็จไปวังพระเจ้าสเตฟาน ทั้งสองมีใจปฏิพัทธ์กันในบัดดล เจ้าชายฟิลลิปทรงให้คำมั่นว่าจะเสด็จกลับมาหาออโรราให้จงได้ ต่อมาเมื่อวันเฉลิมพระชนม์ปีที่สิบหกมาถึง ออโรรายังทรงพอพระทัยจะอยู่กับมาเลฟิเซนต์มากกว่าจะเสด็จกลับเมืองมนุษย์ มาเลฟิเซนต์เองก็หวังจะให้เป็นเช่นนั้น คิดว่า คงช่วยป้องปัดมิให้คำสาปสัมฤทธิ์ผลได้ ทว่า นางฟ้าทั้งสามรุดมาแถลงว่า เป็นมาเลฟิเซนต์ที่สาปออโรรามาแต่พระเยาว์ ออโรราทรงฟังแล้วก็พระทัยสลาย เสด็จหนีมาเลฟิเซนต์คืนสู่วังพระบิดา
พระเจ้าสเตฟานทรงขังออโรราไว้ในวังจนกว่าวันเฉลิมพระชนม์จะพ้นไป กระนั้น ออโรราเสด็จไปพบเครื่องปั้นฝ้ายที่ริบไว้แต่เดิม และทรงถูกเข็มตำนิ้วพระหัตถ์ คำสาปเป็นอันบรรลุผล มาเลฟิเซนต์เสียใจที่ไม่อาจปกป้องพระธิดาได้ จึงลอบพาเจ้าชายฟิลลิปมาสู่วัง หวังใจว่า ที่เจ้าชายเจ้าหญิงได้ทรงพบกันในป่านั้น แม้จะเป็นเวลาอันสั้น ก็อาจช่วยให้บังเกิดรักแท้มาแก้คำสาปได้ เจ้าชายฟิลลิปทรงบรรจงจุมพิตออโรรา แต่ว่าไม่เป็นผล มาเลฟิเซนต์ก็เสียใจหนัก จึงปวารณาจะพิทักษ์รักษาพระธิดาจากเภทภัยทั้งหลายจนกว่าจะทรงฟื้นคืนพระชนม์ กล่าวแล้วก็จุมพิตพระนลาฏพระธิดาด้วยความรัก ฉับพลัน พระธิดาทรงตื่นจากพระบรรทม มาเลฟิเซนต์จึงเข้าใจว่า รักใดในโลกนี้ก็ไม่จริงแท้เท่ารักที่แม่มีให้ลูก พระธิดาทรงเรียกขานมาเลฟิเซนต์ว่า “แม่ทูนหัว” ด้วยทรงซาบซึ้งถึงความรักประหนึ่งมารดาที่มาเลฟิเซนต์มีให้ และทรงอภัยมาเลฟิเซนต์ในทุกสิ่งทุกอย่างแล้ว
พระธิดายังทรงปรารถนาจะกลับไปอยู่กับมาเลฟิเซนต์ในเมืองทิพย์ มาเลฟิเซนต์จึงพาเสด็จหนี ทว่า พระเจ้าสเตฟานเสด็จมาขวางและทรงใช้ข่ายเหล็กจับมาเลฟิเซนต์ไว้ได้ ทแกล้วทหารของพระองค์พร้อมด้วยศัสตราวุธทำด้วยเหล็กกล้าจึงเตรียมฆ่านาง มาเลฟิเซนต์ใช้กำลังเฮือกสุดท้ายจำแลงนกกาดีอาวัลเป็นมังกรเพื่อช่วยให้นางกับพระธิดาหนีไป แต่ทัพมนุษย์กล้าแกร่งนัก ในโมงยามที่มาเลฟิเซนต์กำลังจะถูกประหารนั้นเอง เจ้าหญิงออโรราถอดปีกของมาเลฟิเซนต์ที่รักษาไว้ในคุกออกมาคืนให้ มาเลฟิเซนต์จึงได้ฟื้นฤทธานุภาพโดยบริบูรณ์ และเอาชนะพระเจ้าสเตฟานได้ มาเลฟิเซนต์ละเว้นพระชนม์โดยขอให้เลิกรากันเท่านี้ ก่อนที่นางจะพาพระธิดาบินจากไป ทว่า พระเจ้าสเตฟานไม่ทรงยอมแพ้ ทรงโผนไปเกาะมาเลฟิเซนต์ไว้ มาเลฟิเซนต์ทรงตัวไว้ได้ แต่พระเจ้าสเตฟานนั้นทรงพลัดตกลงสู่เบื้องล่างถึงแก่พระชนมชีพ
ครั้นแล้ว มาเลฟิเซนต์ก็รวมเมืองทิพย์เมืองคนเข้าเป็นหนึ่ง และตั้งออโรราปกครอง ตอนท้ายปรากฏว่า หญิงเฒ่าผู้เล่าเรื่องนั้นคือออโรราในบั้นปลายพระชนม์ หญิงสูงอายุนางหนึ่งเล่าความว่า ในเมืองทิพย์ชื่อ เดอะมัวส์ (The Moors) ซึ่งติดติดเมืองมนุษย์ นางฟ้าองค์หนึ่งชื่อ มาเลฟิเซนต์ ได้เจอและก็รักมนุษย์ชายหนุ่มชื่อ สเตฟาน ผู้มีใจอยากจะเป็นราชา แต่ว่ายิ่งนานวัน ทั้งสองก็ยิ่งห่างกัน จนกระทั่งวันหนึ่งสเตฟานเลิกมาหานาง ถัดมา พระผู้เป็นเจ้าเฮนรี กษัตริย์เมืองมนุษย์ ชูกองทหารมาตีบ้านตีเมืองทิพย์ แม้กระนั้นทรงแพ้แก่มาเลฟิเซนต์ ก็เลยทรงกริ้วโกรธเป็นอย่างยิ่ง มีพูดว่า คนไหนกันแน่ตามล้างผลาญนางเพื่อแก้เผ็ดแทนท่านได้ จะให้ผู้นั้นสืบบัลลังก์ สเตฟานสบช่องขึ้นยิ่งใหญ่ ก็เลยกลับไปพบมาเลฟิเซนต์ในคืนวันหนึ่ง เขาวางยานาง แม้กระนั้นตัดใจสังหารนางไม่ลง เขาก็เลยใช้เหล็กอันเป็นวัตถุมีอำนาจฆ่านางฟ้าตัดปีกนางออก แล้วแสดงปีกนั้นในเมืองมนุษย์เพื่อเป็นเครื่องการันตีว่า เขาได้ฆ่านางแล้ว มาเลฟิเซนต์หัวใจย่อยยับ ก็เลยหันไปสร้างดินแดนอนธการอยู่ในเมืองทิพย์นั้น แล้วรับเอานกกาชื่อ ดีอาวัล มาเป็นคนคุ้นเคย ให้มีฤทธิ์จำแลงกายได้นานาประการ
วันหนึ่ง ดีอาวัลมาแจ้งว่า สเตฟานได้ครองราชย์ในเมืองมนุษย์แล้ว ตอนนี้ กำลังสมโภชพระลูกหญิงที่พึ่งคลอดมีชื่อว่า ออโรรา เพื่อแก้เผ็ดสเตฟาน มาเลฟิเซนต์ก็เลยบุกไปงานฉลองโดยไม่ได้รับเชิญ แล้วสาปพระบุตรีให้ทรงถูกเข็มปั่นฝ้ายตำพระดรรชนีในวันเฉลิมพระชนมพรรษาปีที่สิบหกรวมทั้งบรรทมไปชั่วนิจนิรันดร์ พระผู้เป็นเจ้าสเตฟานทรงขอให้นางเมตตาปรานี นางก็เลยทูลว่า คำแช่งนี้แก้ได้ด้วยจูบที่รักจริง รวมทั้งจากไป พระผู้เป็นเจ้าสเตฟานทรงเกรงมาเลฟิเซนต์จะโกรธเคืองท่านยิ่งนัก ก็เลยพูดให้ยึดเครื่องปั่นฝ้ายทั้งสิ้นในแผ่นดิน แล้วให้นางอัปสรสามองค์นำพระบุตรสาวไปเก็บกักเอาไว้ในป่าจนกระทั่งจะลุวันเฉลิมพระชนมพรรษาปีที่สิบหก
นางสวรรค์สามทั้งยังสามนั้นมักง่าย ไม่ได้ใส่ใจพระบุตรสาวตามควร มาเลฟิเซนต์ก็เลยมาเลี้ยงดูพัดวีอยู่ไม่ห่าง ถึงแม้เดิมจะเกลียดมากมายก็ตาม ครั้นเมื่อพระบุตรีเจริญพระอายุที่สิบห้า ก็เสด็จไปพบมาเลฟิเซนต์ ทรงให้รู้สึกเสมือนว่า มาเลฟิเซนต์เฝ้าป้องกันท่านตลอดมา ก็เลยทรงมั่นใจว่า มาเลฟิเซนต์เป็น “แม่สุดที่รัก” (godmother) ของท่าน มาเลฟิเซนต์เองเมื่อให้พระบุตรีพักอยู่กับตนนานเข้า ก็เริ่มใส่ใจว่า ตนรักพระบุตรสาวมากมายเท่าใด นางก็เลยเพียรพยายามยกเลิกคำสาปแช่งให้ แม้กระนั้นไม่เกิดผล
คราวหลัง ออโรราเจอพระราชโอรสรูปงามนามว่า ฟิลลิป ที่กำลังเสด็จไปวังพระผู้เป็นเจ้าสเตฟาน ทั้งคู่มีใจรักใคร่กันในบัดดล พระราชโอรสฟิลลิปทรงให้คำมั่นว่าจะเสด็จกลับมาหาออโรราให้ควรได้ ถัดมาเมื่อวันเฉลิมอายุปีที่สิบหกมาถึง ออโรรายังทรงพอเพียงใจจะอยู่กับมาเลฟิเซนต์มากยิ่งกว่าจะเสด็จกลับเมืองมนุษย์ มาเลฟิเซนต์เองก็หวังจะให้เป็นแบบนั้น มีความรู้สึกว่า คงจะช่วยปัดไม่ให้คำแช่งสำเร็จผลได้ แต่ทว่า เทวนารีอีกทั้งสามรุดมาแถลงว่า เป็นมาเลฟิเซนต์ที่สาปออโรรามาแต่ว่าพระเยาว์ ออโรราทรงฟังและก็ใจสลาย เสด็จหนีมาเลฟิเซนต์คืนสู่วังพระพ่อ
พระผู้เป็นเจ้าสเตฟานทรงขังออโรราเอาไว้ภายในวังจวบจนกระทั่งวันเฉลิมพระชนมพรรษาจะพ้นไป กระนั้น ออโรราเสด็จไปพบเครื่องปั้นฝ้ายที่ยึดไว้แรกเริ่ม แล้วก็ทรงถูกเข็มตำนิ้วพระมือ คำสาปแช่งเป็นอันบรรลุจุดประสงค์ มาเลฟิเซนต์เศร้าใจที่ไม่บางทีอาจปกป้องรักษาพระลูกหญิงได้ ก็เลยลอบพาพระราชโอรสฟิลลิปมาสู่วัง หวังดวงใจว่า ที่พระราชโอรสเจ้าฟ้าหญิงได้ทรงเจอกันในป่านั้น แม้ว่าจะตรงเวลาอันสั้น ก็บางทีอาจช่วยทำให้มีขึ้นรักจริงมาแก้คำแช่งได้ พระราชโอรสฟิลลิปทรงบรรจงจูบออโรรา แม้กระนั้นไม่เป็นผล มาเลฟิเซนต์ก็เศร้าใจหนัก ก็เลยปวารณาจะพิทักษ์รักษาพระลูกหญิงจากภัยทั้งหลายแหล่ตราบจนกระทั่งจะทรงฟื้นคืนพระชนมายุ กล่าวและก็จูบพระนลาฏพระบุตรีด้วยความรัก กระทันหัน พระลูกสาวทรงตื่นจากพระบรรทม มาเลฟิเซนต์ก็เลยรู้เรื่องว่า รักใดในโลกนี้ก็ไม่จริงแท้เท่ารักที่แม่มีให้ลูก พระบุตรีทรงเรียกชื่อมาเลฟิเซนต์ว่า “แม่สุดที่รัก” ด้วยทรงตื้นตันถึงความรักเหมือนกับคุณแม่ที่มาเลฟิเซนต์มีให้ และก็ทรงยกโทษมาเลฟิเซนต์ในทั้งหมดทุกอย่างแล้ว
พระลูกสาวยังทรงประสงค์จะกลับไปอยู่กับมาเลฟิเซนต์ในเมืองทิพย์ มาเลฟิเซนต์ก็เลยพาเสด็จหนี แต่ พระผู้เป็นเจ้าสเตฟานเสด็จมาขวางและก็ทรงใช้ข่ายเหล็กจับมาเลฟิเซนต์ไว้ได้ ผู้กล้าทหารของท่านพร้อมกับศัสยี่ห้อวุธทำด้วยเหล็กกล้าก็เลยจัดแจงฆ่านาง มาเลฟิเซนต์ใช้ความรุนแรงเฮือกสุดท้ายแปลงกายนกกาดีอาวัลเป็นมังกรเพื่อช่วยทำให้นางกับพระลูกหญิงหนีไป แต่ว่ากองทัพมนุษย์แข็งแกร่งนัก ในนาฬิกายามที่มาเลฟิเซนต์กำลังจะถูกประหารนั้นเอง เจ้าฟ้าหญิงออโรราถอดปีกของมาเลฟิเซนต์สุดที่รักษาเอาไว้ในเรือนจำออกมาคืนให้ มาเลฟิเซนต์ก็เลยได้รู้สึกตัวฤทธิ์นุภาพโดยบริบูรณ์ แล้วก็เอาชนะพระผู้เป็นเจ้าสเตฟานได้ มาเลฟิเซนต์ยกเว้นอายุโดยขอให้เลิกรากันเท่านี้ ก่อนที่จะนางจะพาพระลูกสาวบินจากไป แต่ว่า พระผู้เป็นเจ้าสเตฟานไม่ทรงยอมยกธงขาว ทรงพุ่งไปเกาะมาเลฟิเซนต์ไว้ มาเลฟิเซนต์ทรงตัวไว้ได้ แต่ว่าพระผู้เป็นเจ้าสเตฟานนั้นทรงพลัดหล่นลงสู่ระดับล่างถึงแก่พระชนมชีพ
ต่อจากนั้น มาเลฟิเซนต์ก็รวมเมืองทิพย์เมืองคนเข้ามาเป็นหนึ่ง รวมทั้งตั้งออโรราดูแล ส่วนท้ายปรากฏว่า หญิงแก่คนเล่านั้นเป็นออโรราในตอนปลายอายุ
Views: 899
Genre: Action, Adventure, Family
Director: Robert Stromberg
Actors: Angelina Jolie, Elle Fanning, Imelda Staunton, Juno Temple, Lesley Manville, Sam Riley, Sharlto Copley
Country: USA